STABILIZER หรือ AVR คืออะไร

STABILIZER หรือ AVR คืออะไร

Stabilizer หรือ AVR คืออะไร

               คือ เครื่องรักษาระดับแรงดันไฟฟ้า ให้มีความคงที่ เรียบนิ่งป้องกันปัญหาไฟฟ้า ตก-ไฟเกิน  จะมีติดมาด้วยกับเครื่องสำรองไฟฟ้าหลายๆรุ่น
สำหรับสเตบิไลเซอร์ (Stabilizer) เป็นเครื่องป้องกันไฟตก-ไฟเกิน และปรับแรงดันกระแสไฟให้พอดี ช่วยให้การจ่ายกระแสไฟเป็นไปด้วยความราบรื่น อุปกรณ์ต่อพ่วงจึงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และที่สำคัญเมื่อกระแสไฟมีความสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้อุปกรณ์นั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งลดอัตราการเสียหายอันเกิดจากสภาพปัญหาเรื่องไฟฟ้าตลอดจนช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือให้ยาวนาน เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการทำงานอยู่ตลอดเวลา เช่นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ตู้สาขาโทรศัพท์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์, เครื่องจักรอุตสาหกรรม หรือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ชนิดอื่นๆ ได้อีกมากมายตามต้องการ
 
การเลือกขนาดของเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ
1. ทำรายการอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะต่อพ่วงกับเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า
2. อุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละชนิดจะมีป้ายแสดงค่าพิกัดกำลัง (Nameplate) ซึ่งระบุถึงแรงดันไฟฟ้า (V) และกระแสไฟฟ้า (A) ที่ต้องการ หรืออุปกรณ์บางชนิดแสดงหน่วยวัตต์ (W) มาให้ โดยทั่วไปจะติดอยู่ที่หลังเครื่อง
3. รวมค่าวัตต์ (W) ของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะต่อกับเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าทั้งหมด
4. เลือกเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าที่มีวัตต์สูงกว่าวัตต์รวมของอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 3KVA    2400w
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 5KVA    4000w
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 8KVA    6400w
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 10KVA  8000w
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 20KVA  16000w
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 30KVA  24000w

ตัวอย่าง
ต้องการคำนวณหาขนาดของเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าที่สามารถใช้กับ แอร์ขนาด 9000btu  พัดลม 60W หม้อหุงข้าว 1240W และหลอดไฟ 28W จำนวน 10 หลอด
แอร์ (9000x0.263) = 2,367w
พัดลม (60)x30% = 78W
หม้อหุงข้าว =1240w
หลอดไฟ 28x10 = 280w
W รวม = 2367+78+1240+280 = 3965w
                     ดังนั้น ขนาดของเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าที่สามารถใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าดังกล่าวได้อย่างปลอดภัยคือ 4000W ขึ้นไป หรือ เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 8Kva  6400W

ไฟตกคืออะไร‬
       โดยปกติคำว่า "ไฟตก" จะใช้กับแรงดันไฟ หรือที่เราเข้าใจกับคำว่า "ไฟ 220 โวล์ท" จริง ๆ แล้วไฟ 1 เฟส ทางการไฟฟ้าจะระบุว่าเป็นไฟ 230V ซึ่งทางการไฟฟ้าจะยอมระดับแรงดันตกจากปกติที่ไม่เกิน 5% หรือ 220V

ไฟตกเกิดจากสาเหตุ‬
1. มีจำนวนบ้านในระแวกที่เพิ่มสูงขึ้น มีการแย่งกันใช้ไฟ
2. ระยะทางไกลจากแหล่งจ่ายพลังงาน
3. เกิดก่อนไฟจะดับ
4. มีฝนตกหนัก
5. มีการใช้พลังงานสูงในบ้าน เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น เปิดแอร์ หรือ อุปกรณ์ที่ใช้มอเตอร์หมุนรอบสูง ปั๊มน้ำ

จุดสังเกตว่าบ้านเราไฟตกไหม‬
1. หลอดไฟไม่ค่อยติด หรือเปิดติดยาก หรือกระพริบถี่ ๆ
2. หลอดไฟติดแต่สว่างน้อยลง
3. ปั๊มน้ำไม่ทำงาน หรืออปกรณ์มอเตอร์หมุนรอบสูงไม่ทำงาน !! และต้องรีบปิดหรือดึงปลั๊กออกทันที เมื่อเจอแบบนี้ ไม่งั้นจะเสียหายและเสี่ยงไฟไหม้
4. แอร์ไม่ทำงาน มีแต่ลมออก

ที่มา : http://chuphotic.com/knowledge-detail.php?ID=35

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เครื่องสำรองไฟฟ้า UPS VENUS Smart (1-10kVA) True online (High frequency)